กัญชาทางการแพทย์
ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์
การใช้สารสกัดจากกัญชาในทางการแพทย์ก็เหมือนกับการใช้ยาชนิดอื่นๆ ที่มีรูปแบบยาหรือผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นการสูดไอระเหยเข้าสู่ทางเดินหายใจ การให้ยาโดยการรับประทาน หรือผ่านผิวหนัง เป็นต้น เพื่อสนองวัตถุประสงค์ของการรักษาและความต้องการของผู้ป่วยที่แตกต่างกัน โดยจำเป็นต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับโรค และอาการของผู้ป่วยแต่ละราย
สารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids)
จากการวิจัยพบสารประกอบทางเคมีมากกว่า 500 ชนิด ที่สามารถสกัดออกมาจากส่วนต่างๆ ของกัญชาได้โดยกว่า 100 ชนิดเป็นสารที่มีอยู่ในต้นกัญชาเท่านั้น ไม่สามารถพบได้ในพืชอื่น เรียกสารสำคัญกลุ่มนี้ว่าสารแคนนาบินอยด์ สารแคนนาบินอยด์สามารถถูกสร้างได้เองโดยร่างกายมนุษย์ และอาจถูกสังเคราะห์ขึ้นโดยกรรมวิธีทางเคมีด้วย แต่จากการศึกษาพบว่าประโยชน์ทางการแพทย์อาจสามารถประยุกต์มาจากการใช้สารแคนนาบินอยด์ที่ได้จากพืชซึ่งเรียกว่า ไฟโตแคนนาบินอยด์ โดยสารที่มีความสำคัญและรู้จักกันมากที่สุดในขณะนี้ได้แก่ เดลต้า-9-เทตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol) หรือ THC และแคนนาบิไดออล (Cannabidiol) หรือ CBD
น้ำมันกัญชา
เป็นสารสกัดจากช่อดอกกัญชาประกอบด้วยสารแคนนาบินอยด์และเทอร์ปีน ที่มีความเข้มข้น ใช้ตัวทำละลายเป็นน้ำมันมีลักษณะเหนียวหนืด สีเข้ม โดยน้ำมันที่นิยมใช้เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันทานตะวัน น้ำมันถั่วลิสง เป็นต้น
วิธีใช้ หยดยาใต้ลิ้น ยาจะถูกดูดซึมผ่านชั้นเยื่อเมือกบุผิวในปากแล้วเข้าสู่กระแสเลือด
มาตรฐานน้ำมันกัญชา :
น้ำมันกัญชาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายมากที่สุดในตลาด ซึ่งมีคุณภาพที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัตถุดิบตั้งต้น คือช่อดอกกัญชา ผู้ผลิตหลายรายอาจไม่ได้ใช้ช่อดอกกัญชาที่ได้มาตรฐานทำให้อาจมีปริมาณสารแคนนาบินอยด์แตกต่างจากปริมาณที่ระบุไว้บนฉลาก การใช้กรรมวิธีการปลูกและสกัดที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้ไม่ทราบปริมาณและสัดส่วนที่ชัดเจนของสารสำคัญได้แก่ THC และ CBD และอาจมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายได้แก่ โลหะหนักและยาฆ่าแมลง ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ผลการรักษาและอาการข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นได้
ไอระเหย
การให้ยากัญชาโดยการสูดพ่นไอระเหยต้องใช้เครื่องพ่นหรือเครื่องมือสูดไอระเหยทางการแพทย์ ผู้ป่วยจะสูดดมสารแคนนาบินอยด์จากช่อดอกกัญชา ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางปอด ซึ่งวิธีนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ (แตกต่างจากการสูบกัญชาเพื่อนันทนาการที่เป็นการเผาไหม้กัญชาโดยตรง)
ในไอระเหยจะมีทั้งสารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) และเทอร์ปีน (Terpenes) ซึ่งออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างรวดเร็วทำให้การปรับขนาดยาทำได้ง่ายขึ้น สามารถรับยาในปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่เกิดอาการข้างเคียงมากนักช่วยบรรเทาอาการได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ปริมาณสารแคนนาบินอยด์ที่เข้าสู่ร่างกายจะขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีการสูดลมหายใจและการกลั้นหายใจด้วย
จากการวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องพ่นไอระเหยทางการแพทย์และเทคโนโลยีการสูดไอระเหยยาพบว่าไอระเหยจะไม่มีส่วนประกอบของนิโคติน (Nicotine) โพรไพลีนไกคอน (Propylene Glycol) กลีเซอรีน (Glycerin) และกลิ่นรสสังเคราะห์ (Flavoring) เหมือนกับบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงไม่มีควันที่เป็นพิษต่อร่างกาย เครื่องพ่นไอระเหยจึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และยังสามารถใช้งานง่าย
สเปรย์
สำหรับพ่นยาเข้าไปบริเวณใต้ลิ้นเหมือนกับการใช้น้ำมัน เช่น SativexTM ซึ่งได้มาตรฐานทางเภสัชกรรม ผลิตจากกัญชาสองสายพันธุ์ มีทั้งสาร THC และ CBD ในสัดส่วนที่แน่นอน ละลายในแอลกอฮอล์ก่อนบรรจุในขวด
แคปซูล
สำหรับใช้รับประทาน ประกอบด้วยสารแคนนาบินอยด์เดี่ยว (THC หรือ CBD) ในปริมาณความเข้มข้นที่แน่นอน ละลายในน้ำมันบรรจุในแคปซูล เมื่อกลืนแล้วก็จะแตกตัว ตัวยาจะถูกปล่อยออกมาและถูกดูดซึมในกระเพาะอาหารและลำไส้
ชาหรือสารละลาย
ผู้ป่วยที่บริโภคกัญชาทางการแพทย์ในรูปแบบชา (ช่อดอกกัญชาแช่ในน้ำร้อน) สารแคนนาบินอยด์จะถูกดูดซึมในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก วิธีการชงแบบชานี้จะได้ความเข้มข้นของสารแคนนาบินอยด์ที่แตกต่างขึ้นอยู่ที่หลายปัจจัย เช่น เวลาการต้ม อุณหภูมิน้ำ ปริมาณช่อดอกกัญชาที่ได้คุณภาพและระยะเวลาในการเก็บรักษาช่อดอก
อาหาร
ใช้ต้นกัญชานำมาเป็นส่วนประกอบอาหาร เช่นในรูปของคุกกี้ แต่การบริโภค ในรูปของอาหารนี้จะยากต่อการควบคุมปริมาณองค์ประกอบสารแคนนาบินอยด์ที่แน่นอน ทำให้ไม่สามารถกำหนดปริมาณสารสำคัญได้รับอย่างคงที่ได้ และอาจทำให้ได้รับยาเกินขนาดได้ง่าย
การให้ยาทางผิวหนัง (Transdermal) และผ่านผิวหนัง (Dermal)
ใช้ในรูปแบบของครีมสำหรับทาบนผิว หรือแผ่นแปะผิวหนัง ผู้ป่วยจะได้รับปริมาณยาที่เฉพาะเจาะจงในเวลาที่กำหนด ปัจจุบันมีการพัฒนายาในรูปแบบนี้เพื่อรักษาโรคหรืออาการทางผิวหนังบางประเภท และอาการปวดกล้ามเนื้อเฉพาะจุดหรือปวดข้อ
ข้อมูลจาก